แผยแพร่เมื่อ 11 มิถุนายน 2566
คุณสมบัติสำคัญบางประการและการใช้งานของสารทำความเย็น HC ได้แก่ :
• ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : สารทำความเย็น HC มี GWP ที่ต่ำมาก ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศน้อยที่สุด
• ประสิทธิภาพพลังงาน : สารทำความเย็น HC มีคุณสมบัติทางอุณหพลศาสตร์ที่ดี ส่งผลให้ประหยัดพลังงานได้สูงและประสิทธิภาพการทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพ
• ด้านความปลอดภัย : สารทำความเย็น HC เป็นสารไวไฟในระดับ A3 จึงจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันด้านความปลอดภัยระหว่างการจัดเก็บ การจัดการ การใช้งาน และการติดตั้ง อย่างเคร่งครัด
• การใช้งาน : สารทำความเย็น HC มักใช้ในตู้เย็น ตู้แช่แข็ง ระบบทำความเย็นเชิงพาณิชย์ และเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสามารถในการทำความเย็นต่ำถึงปานกลาง
ตัวอย่างสารทำความเย็น HC ที่เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย มีดังนี้
• สารทำความเย็น R170
GWP : 6
Application : Very Low Temperature (VLT)
Preferred Oil : POE
ASHRAE Class : A3
Composition : Ethane
Replacement Refrigerant : R1150
Replaces Refrigerant : R23, R508B
อีเทน (R170) เป็นสารทำความเย็นประเภทไฮโดรคาร์บอน มีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการทำความเย็นที่อุณหภูมิต่ำ ไปจนถึง VLT หรืออุณหภูมิต่ำพิเศษ อีเทนมีจุดเดือดและความดันไอค่อนข้างต่ำ ซึ่งช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่อุณหภูมิต่ำมาก ถูกนำมาใช้แทนสารทำความเย็น R-508b อย่างงานทางการแพทย์ งานวิจัย ตู้ chamber หรืออุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องการความเย็นที่อุณหภูมิต่ำไปจนถึงการแช่เยือกแข็ง -80C
R170 เป็นสารทำความเย็นอาจจำกัดเฉพาะการใช้งานหรืออุตสาหกรรมเฉพาะ ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้าน HVAC ผู้เชี่ยวชาญด้านสารทำความเย็น หรือผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเลือกใช้อีเทนได้อย่างเหมาะสม
• สารทำความเย็น R600A
GWP : 4
Application : Refrigerant & A/C
Preferred Oil : POE
ASHRAE Class : A3
Composition : Isobutane
Replaces Refrigerant : R22
R600A เป็นสารทำความเย็นไฮโดรคาร์บอนหรือที่เรียกว่าไอโซบิวเทน ได้รับความนิยมในฐานะทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีคุณสมบัติทางอุณหพลศาสตร์ที่ดี R600a มักใช้ในตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และระบบปรับอากาศขนาดเล็ก มีความสามารถในการทำความเย็นที่ยอดเยี่ยมและด้วยคุณสมบัติประหยัดพลังงาน
ในด้านข้อเสีย ด้วยสารทำความเย็นธรรมชาติ จะมีคุณสมบัติไวไฟ (A3) จึงต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย ทั้งการจัดการและติดตั้งระบบที่ใช้ R600a ควรปฏิบัติตามขั้นตอนการจัดเก็บ การติดตั้ง และการบำรุงรักษาที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
• สารทำความเย็น R290A
GWP : 3
Application : Refrigeration & A/C
Preferred Oil : POE
ASHRAE Class : A3
Composition : Propane
Replaces Refrigerant : R22, R502
R290A หรือ Propane กำลังได้รับความนิยมในฐานะทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนสารทำความเย็นสังเคราะห์ เนื่องจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำและคุณสมบัติทางอุณหพลศาสตร์ที่ดี ใช้เป็นหลักในระบบทำความเย็นขนาดเล็กถึงขนาดกลางและเครื่องปรับอากาศ รวมถึงการทำความเย็นเชิงพาณิชย์ อย่าง ตู้โชว์ ตู้แช่ ตู้แช่แข็งเชิงพาณิชย์ ด้วยคุณสมบัติทางอุณหพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมทำให้สามารถทำความเย็นและควบคุมอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการจัดเก็บอาหารและเครื่องดื่ม
• สารทำความเย็น R1150
GWP : 3
Application : Very Low Temperature (VLT)
Preferred Oil : POE
ASHRAE Class : A3
Composition : Ethylene
Replaces Refrigerant : R-170
R1150 เป็นส่วนผสมของสารทำความเย็นเอทิลีน (C2H4) และโพรพิลีน (C3H6) ใช้เป็นสารทำความเย็นสำรองในการทำความเย็นทางอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น ระบบทำความเย็นแบบ Cascade มักถูกใช้เป็นสารทำความเย็นทุติยภูมิในวัฏจักรอุณหภูมิต่ำ ซึ่งมีคุณสมบัติจุดเยือกแข็งต่ำและคุณสมบัติการถ่ายเทความร้อนที่ดี
และนิยมใช้สำหรับงาน Ultra-low Temperature หรืออุณหภูมิต่ำพิเศษ สามารถแทนที่ R13 และ R503 ซึ่งใช้ในอุปกรณ์ทำความเย็นแบบแช่แข็ง และอุตสาหกรรมการใช้งานได้อีกหลากหลายประเภทเช่น สารตั้งต้นสำหรับการสังเคราะห์ทางอุตสาหกรรมหลายประเภท ใช้เป็นตัวกลางในอุตสาหกรรมเคมีและสำหรับการผลิตพลาสติก เป็นต้น
• สารทำความเย็น R1270
GWP : 2
Application : Low&Medium Temp Ref
Preferred Oil : POE
ASHRAE Class : A3
Composition : Propylene
Replaces Refrigerant : R22, R502
สามารถใช้เป็นทางเลือกแทน R22 และ R502 ในการทำความเย็นและการปรับอากาศที่อุณหภูมิต่ำและปานกลาง เป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติทางอุณหพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยทั่วไปจะใช้ในระบบทำความเย็นเชิงพาณิชย์ รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และการใช้งานทำความเย็นในอุตสาหกรรม รวมถึงปั๊มความร้อน
R1270 (Propylene) เป็นไฮโดรคาร์บอนและแม้ว่าจะเป็นสารทำความเย็นที่ไวไฟสูง แต่ก็เป็นสารทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพและมีศักยภาพในการเกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำ ใช้ได้ในระดับอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ คุณสมบัติทางอุณหพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมทำให้ประหยัดพลังงานได้สูง
สรุป
ปัจจุบันกระแสโลกกำลังเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีที่ใช้สารทำความเย็นจากธรรมชาติมากขึ้น Colder Solution จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านประสิทธิภาพ และพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการสนับสนุนการใช้สารทำความเย็นจากธรรมชาติ ในประเทศของเรา
จากอัตราการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ทำให้การเปลี่ยนระบบทำความเย็นที่มีอยู่เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น ยิ่งโลกร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนได้มากเท่านั้น และท้ายที่สุดแล้วผลประโยชน์ก็จะตกเป็นของเราทุกคน ทั้งในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ไปจนถึงผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อมระดับโลกค่ะ
แต่ทั้งนี้ เมื่อต้องการพิจารณาการใช้สารทำความเย็น HC หรือสารทำความเย็นธรรมชาติ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทำความเย็น และปรับอากาศ ที่มีความรู้เกี่ยวกับสารทำความเย็นเฉพาะและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ในด้านการใช้งานที่เหมาะสม การออกแบบระบบ และข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจได้ถึงการทำงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
บทความสารทำความเย็น HC ที่เกี่ยวข้อง
• การใช้สารทำความเย็นไฮโดรคาร์บอน (HCs) ในระบบทำความเย็นและปรับอากาศ
• สารทำความเย็นไฮโดรคาร์บอน (HCs) ตอนที่ 1
ดูสารทำความเย็น HC ทั้งหมดได้ ที่นี่
สารทำความเย็นที่จัดจำหน่ายในนามของเรา มีหลายแบรนด์ หลายขนาด และราคา สามารถติดต่อเราเพื่อรับใบเสนอราคา หรือรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเลือกสารทำความเย็นให้เหมาะกับแอพพลิเคชั่นของคุณได้ที่ :
Line id : @Colder
Email : kantawan.coldersolution@gmail.com
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณา
คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม ‘นโยบายคุกกี้’
Website Policy | Privacy Policy | Copyright 2021