อุณหภูมิและสารทำความเย็นที่เหมาะสมกับห้องเย็นในอุตสาหกรรม

แผยแพร่เมื่อ 7 ตุลาคม 2564

ประเภทของห้องเย็นและห้องแช่แข็งในอุตสาหกรรม

กรรมวิธีการรักษาคุณภาพของวัตถุดิบในอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความเย็นในอุตสาหกรรมอาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ โดยการแช่เย็นหรือแช่แข็ง

จุดประสงค์ที่เราทราบกัน เพื่อรักษาคุณภาพวัตถุดิบให้คงสภาพปกติเป็นเวลานาน และยับยั้ยการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์

อุณหภูมิการเก็บรักษา หรือการเลือกประเภทห้องเย็นเพื่อใช้งาน นอกจากจะต้องคำนึงถึงประเภทวัตถุดิบแล้ว ยังต้องคำนึงถึงกระบวนการผลิตให้เหมาะสมกับประเภทของห้องเย็นด้วย

ปกติแล้วในปัจจุบันห้องเย็นที่นิยมใช้มีอยู่ 2 ประเภทก็คือ

• ห้องเย็นสำเร็จรูป เป็นห้องเย็นขนาดไม่ใหญ่มาก ราคาถูก สามารถเคลื่อนย้ายได้ มีขนาดเฉลี่ย 4-6 ตัน ขึ้นอยู่สินค้า ใช้ในพื้นที่ขนาดเล็ก หรือในการขนส่งสินค้าได้ (Cold Chain)

•ห้องเย็นแบบสั่งทำ มีขนาดเฉลี่ยที่เก็บวัตถุดิบได้มากถึง 10 จนถึงหลัก 100 ตัน สามารถออกแบบได้ตามที่ต้องการ เหมาะกับพื้นที่หรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่

ห้องเย็นที่กล่าวมาทำความเย็นโดยใช้หลักการทำความเย็นและแช่แข็งในอุตสาหกรรมในการการลดอุณหภูมิของสินค้าหรือวัตถุดิบ

ประเภทของห้องเย็นและห้องแช่แข็ง

1. ห้องเย็นแบบแช่เย็นเฉียบพลัน (Air Blast Chill Room) มีไว้สำหรับลดอุณหภูมิ ก่อนถึงกระบวนการถัดไปเพื่อควบคุมเชื้อแบคทีเรีย หรือเพื่อให้เชื้อเอมไซน์ย่อยเนื้อในกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ อุณหภูมิที่ต้องการส่วนใหญ่ประมาณ 2 ถึง 10 องศาเซลเซียสหรือขึ้นอยู่กับสินค้า

2. ห้องเย็นแบบแช่แข็ง (Freezer Room) มีไว้สำหรับลดอุณหภูมิและเก็บสินค้าได้เป็นเวลานาน โดยตั้งค่าที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของตัวสินค้า อุณหภูมิที่ต้องการส่วนใหญ่ประมาณ -5 ถึง -25 องศาเซลเซียสหรือขึ้นอยู่กับสินค้า

3. ห้องเย็นเก็บรักษาสินค้า (Cold Storage Room) เป็นห้องเย็นที่ใช้เก็บรักษาสินค้าถูกผ่านการแช่แข็งมาแล้ว สินค้าที่นำมาเก็บต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่าหรือเท่ากับอุณหภูมิของห้องเก็บรักษาสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องคิดค่าความร้อนจากตัวสินค้า ปกติแล้วจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ -18 ถึง -25 องศา

มีใช้อย่างมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่แข็ง และปศุสัตว์สามารถใช้สารทำความเย็นได้ทั้งแบบ ฟรีออนเช่น R22,R404a,R507 รวมถึงแอมโมเนีย

4. ห้องเย็นแบบแช่แข็งด้วยลมเย็นจัด (Air Blast Freezer Room) เป็นห้องเย็นเพื่อแช่แข็ง หรือ Freez สินค้าให้เย็นเร็วขึ้น โดยที่ไม่ทำให้เซลล์ของสินค้าเกิดความเสียหายหรือช้ำ ปกติแล้วจะใช้เวลาในการแช่แข็ง 4-5 ชม. ต่อความจุสินค้า 2.5 ตันโดยมีข้อกำหนดในการดึงอุณหภูมิได้ไม่เกิน 6 ชม.

อุณหภูมิที่ต้องการประมาณ -35 องศาเซลเซียสไปถึง -50 องศาเซลเซียสหรือขึ้นอยู่กับสินค้า โดยสารทำความเย็นที่ใช้ ต้องเป็นสารทำความเย็นที่ให้อุณหภูติต่ำเช่น R404a,R507 หรือแอมโมเนีย

5. ห้องเย็นพักสินค้า (Anti Room) เป็นห้องเย็นเพื่อลดอุณหภูมิของอากาศภายนอก เรียกได้ว่าเป็นห้องพักอากาศหรืออุณหภูมิก่อนถึงห้อง Air Blast Freezer Room หรือห้องประเภทอื่นที่มีการเก็บวัตถุดิบในอุณหภูมิต่ำ สามารถจัดทำเป็นห้องพักสินค้า หรือกระจายสินค้าก่อนขนส่งได้ โดยอุณหภูมิส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ -5 ถึง 10 องศาเซลเซียสหรือขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้า

6. ห้องเย็นสำหรับการผลิต ( Processing Room ) ห้องผลิตเป็นห้องที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอยู่ที่ 16 ถึง 20 องศาเซลเซียสให้เหมาะกับอุณหภูมิที่บุคลากรหรือพนักงานอยู่ได้ อาจจะต้องมีการควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และอากาศสะอาดในห้องด้วย เช่นเป็นการผลิตแบบห้องแรงดันบวก

สารทำความเย็น หรือน้ำยาแอร์ที่ใช้ สามารถเป็นน้ำยาแอร์ทั่วไปเช่น R22,R134a หรือสารทำความเย็นที่เหมาะกับเครื่องปรับอากาศได้

นอกจากอุตสาหกรรมที่กล่าวไปยังมีห้องเย็นอีกหลากหลายประเภทที่สัมพันธ์กับทั้งธุรกิจและชีวิตประจำวันของผู้คน เช่นห้องเย็นสำหรับเพาะเมล็กพันธ์ที่ต้องรักษาอุณหภูมิ และห้องเย็นสำหรับการรมยา (Fumigation Room) ที่ใช้กันแพร่หลายในอุตสาหกรรมส่งออกไปยังต่างประเทศ

หากต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับระบบทำความเย็น รวมถึงเลือกสารทำความเย็นให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ เพื่อคุณภาพสูงสุด ปรึกษาเราได้ที่ Line id : @Colder

ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนจำหน่าย น้ำยาแอร์และสารทำความเย็น รวมถึงอุปกรณ์เครื่องทำความเย็นอื่นๆ ▶ COLDER SOLUTION