แผยแพร่เมื่อ 31 สิงหาคม 2564
น้ำมันคอมเพรสเซอร์ ส่วนสำคัญช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้คอมเพรสเซอร์ในระบบทำความเย็น และระบบปรับอากาศมีกี่ประเภท ? วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันค่ะ
น้ำมันคอมเพรสเซอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม น้ำมันคอมแอร์ ทั้งในงานระบบปรับอากาศ และระบบทำความเย็น จะทำหน้าที่หล่อลื่น ชิ้นส่วนในคอมเพรสเซอร์ ที่จะช่วยให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานได้อย่างปกติ (ดูประเภทและการทำงานของคอมเพรสเซอร์)
น้ำมันคอมเพรสเซอร์จะช่วยเพิ่มกำลังอัด และระบายความร้อน ให้กับคอมเพรสเซอร์ ทำให้น้ำมันคอมเพรสเซอร์เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญ ในระบบทำความเย็น
น้ำมันคอมเพรสเซอร์ถูกแบ่งประเภทตามชนิดของน้ำยาแอร์ หรือสารทำความเย็นเป็นหลัก จึงจำเป็นต้องใช้น้ำมันคอมเพรสเซอร์ ที่เป็นชนิดเดียวกัน เพราะในระบบทำความเย็นนั้น น้ำมันคอมเพรสเซอร์จะมีการผสมเทกับสารทำความเย็น
น้ำมัน คอมเพรสเซอร์ มีกี่ประเภท ?
น้ำมันคอมเพรสเซอร์ในท้องตลาด สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่
1. น้ำมันคอมเพรสเซอร์แบบ Mineral
เป็นน้ำมันคอมเพรสเซอร์ที่ใช้กับระบบทำความเย็น ที่ใช้สารทำความเย็น HCFC / HC ทำงานผ่านกระบวนการ Hydrorefining จากน้ำมันดิบแบบ Naphthenic ระบบทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนียนั้นจะเหมาะกับน้ำมันคอมแอร์แบบ Mineral มากที่สุด เพราะมีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดฟอง จึงมีความเสถียรต่อความร้อนและสารเคมี สามารถใช้น้ำมันคอมเพรสเซอร์นี้กับสารทำความเย็น R22 และ R12
2. น้ำมันคอมเพรสเซอร์แบบ Alkylbenzene (AB)
อัลคิลเบนซีนเป็นน้ำมันสังเคราะห์สำหรับระบบความเย็น ที่สามารถใช้ร่วม หรือทดแทนน้ำมันคอมแอร์แบบ Mineral ได้ โดยใช้กับสารทำความเย็นประเภท CFC หรือ HCFC เข้ากันได้ดีกับสารทำความเย็น R-22 เมื่ออยู่ในสภาวะอุณหภูมิต่ำ
3. น้ำมันคอมเพรสเซอร์แบบ Polyolester (POE)
เป็นน้ำมันที่มีความเสถียรทางเคมีที่ดีมากถูกออกแบบและนำมาใช้กับสารทำความเย็น HFC และยังสามารถใช้ได้กับระบบความเย็นที่ใช้สาร CFC, HCFC รวมถึงถูกจัดในอยู่ในระบบ CO2 ด้วย ใช้ได้กับสารทำความเย็น R-134a, R-404A, R-407C, R-410A
4. น้ำมันคอมเพรสเซอร์แบบ Polyalkylene Glycol (PAG)
ส่วนมากนิยมใช้ในระบบแอร์รถยนต์ที่ใช้น้ำยา R-134a มีความสามารถดูดความชื้นได้มากกว่าน้ำมัน POE หรือ PVE แต่จะไม่ก่อให้เกิดไฮโดรไลซิส
5. น้ำมันคอมเพรสเซอร์แบบ Polyvinyl Ether (PVE)
เป็นน้ำมันสังเคราะห์ที่สามารถใช้แทนน้ำมัน POE แต่มีคุณสมบัติดูดความชื้นมากกว่า แต่น้อยกว่าน้ำมันคอมเพรสเซอร์ประเภท PAG และจะไม่ผ่านกระบวนการสลายโมเลกุล หรือไฮโดรไลซิส
คุณสมบัติของน้ำมันคอมเพรสเซอร์
ความหนืด (Viscosity ) : เป็นค่าที่ใช้เพื่อบอกคุณสมบัติความหนืดของน้ำมันคอมเพรสเซอร์ เพื่อบ่งชี้คุณสมบัติต้านการไหล เพราะน้ำมันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ ค่าความหนืดจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อเจออุณหภูมิต่ำ
ค่าตกตะกอน (Floc Test) : บ่งชี้การตกตะกอนของน้ำมันแร่ที่มาจาก น้ำมันคอมเพรสเซอร์ การตกตะกอนจะเกิดขึ้นที่อุณหภูมิต่ำ อาจจะจับตัวเป็นก้อน ทำให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคอมเพรสเซอร์ได้
จุดวาบไฟ (Flash Point) : จุดวาบไฟ คือ ช่วงของอุณหภูมิที่มีการก่อให้เกิดไอระเหย ที่ส่งผลต่อการผสมของสารเคมีและอากาศ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดไฟ เมื่อเกิดประกายไฟ
การเติมหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันคอมเพรสเซอร์หรือน้ำมันคอมแอร์จำเป็นหรือไม่ ?
เพราะสารทำความเย็น หรือน้ำยาแอร์จะถูกผสมกับน้ำมันคอมเพรสเซอร์อยู่แล้ว ดังนั้นทั้งน้ำมันคอมเพรสเซอร์และน้ำยาแอร์จะถูกหมุนเวียนอยู่ในระบบไม่หายไปไหน ด้วยตามปกติแล้วระบบทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ จะเป็นระบบปิด (น้ำยาแอร์ขาดได้จริงหรือไม่ ?)
ยกเว้นแต่จะมีจุดรั่วซึม ที่ทำให้น้ำมันคอมเพรสเซอร์ และน้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็นหลุดลอดออกไป ช่างต้องทำการเติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์ ก่อนเติมสารทำความเย็น โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายหรือเอาน้ำยาแอร์ออกก่อน โดยนำน้ำมันคอมเพรสเซอร์ใส่ในสายเกจ แล้วค่อยใช้น้ำยาดันน้ำมันคอมเพรสเซอร์เข้าไป
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันคอมเพรสเซอร์นั้น สามารถทำได้หากมีความสกปรก หรือใช้คอมเพรสเซอร์แอร์เก่า หรือมือสอง ช่างที่ปฏิบัติงานต้องมีฝีมือค่อนข้างสูง ดังนั้นเพื่อประสิทธิภาพการทำงานของคอมเพรสเซอร์ที่ดีที่สุด ควรเลือกใช้น้ำมันคอมเพรสเซอร์ที่เหมาะสมกับสารทำความเย็นของเรา
หากต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับระบบทำความเย็น รวมถึงเลือกสารทำความเย็นให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ เพื่อคุณภาพสูงสุด
ปรึกษาเราได้ที่ Line id : @Colder
ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนจำหน่าย น้ำยาแอร์และสารทำความเย็น รวมถึงอุปกรณ์เครื่องทำความเย็นอื่นๆ ▶ www.coldersolution.co.th
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณา
คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม ‘นโยบายคุกกี้’
Website Policy | Privacy Policy | Copyright 2021