แผยแพร่เมื่อ 7 มิถุนายน 2565
วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ได้กำหนดให้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) โดยในปี 2022 นี้เป็นแนวคิดรณรงค์ภายใต้หัวข้อ #OnlyOneEarth
แม้ในระบบสุริยจักรวาลจะมีมีดวงดาวเป็นพันล้านดวง แต่โลกใบนี้มีใบเดียว ที่เราต้องช่วยกันรักษาไว้
สำหรับทางกรุงเทพมหานครยังมีนโยบาย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net zero) โดยมีเป้าหมายภายในปี 2030 โดยร่วมกับองค์กรมหาชน และเอกชน มีแนวทางช่วยกันลดจากปัจจัย 4 ด้านเช่น การขนส่งคมนาคม ลดการใช้พลังงานในอาคาร การกำจัดขยะ และการปลูกต้นไม้ เป็นต้น
ในด้านของสารทำความเย็นที่มีบทบาทในอุตสาหกรรม และชีวิตประจำประจำวันแทบจะทุกส่วน อย่างที่เราทราบกันดีว่า สารทำความเย็นเป็นอีกหนึ่งส่วนรวมในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทำลายชั้นโอโซน และภาวะโลกร้อน
ปัจจุบันมีสารทำความเย็นรุ่นใหม่ ที่มีค่า GWP ต่ำ และยังคงประสิทธิภาพสูงออกมาจากหลากหลายผู้ผลิต ตามแนวทางการพัฒนาข้อบังคับการใช้สารทำความเย็นอย่าง The Kigali Amendment ที่มีความพยายามที่จะลด HFCs ใน CO2 ที่เทียบเท่ากัน GWP
การนำกลับคืนและการนำกลับมาใช้ใหม่ ยังมีความสำคัญมากอีกด้วย รวมถึงการป้องกันการรั่วไหล การกู้คืน การเรียกคืน การทำลายสารทำความเย็น และการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของสารทำความเย็นเพื่อลดการปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม
เป้าหมายการดำเนินการกับสารทำความเย็นขึ้นอยู่กับบทบาทของผู้ผลิต และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
1. บทบาทผู้ผลิตสารทำความเย็น หลากหลายแบรนด์ผู้ผลิต พยายามที่จะจัดหาสารทำความเย็นที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย มีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุวัฏจักรชีวิตของสารทำความเย็นที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่ และการรีไซเคิล โดยมีแนวคิดดังนี้
• การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
• ความปลอดภัยของระบบและต้นทุนที่เหมาะสมกับการใช้งานของผู้บริโภค
• การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความร้อน และเครื่องทำความเย็น
• การปรับปรุงเทคโนโลยีการรีไซเคิล/การนำกลับมาใช้ใหม่
2. บทบาทผู้ผลิตอุปกรณ์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ทำความเย็น และปรับอากาศ มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของอุปกรณ์ และระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อคัดเลือกสารทำความเย็นที่เหมาะสมที่สุดที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย เช่น
ผู้ผลิตอุปกรณ์คัดเลือกสารทำความเย็นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานแต่ละประเภท โดยให้ความร่วมมือกับผู้ผลิตสารทำความเย็นต่างๆ ซึ่งรวมถึงสารทำความเย็นประเภทฟลูออโรเคมี หรือที่ไม่ใช่ฟลูออโรเคมี และการออกแบบอุปกรณ์ที่ลดการปล่อยสารทำความเย็น และใช้สารทำความเย็นเท่าที่จำเป็นสำหรับการทำงานของระบบ
3. บทบาทผู้มีส่วนร่วมในด้านอื่นๆ นอกจากผู้ผลิตสารทำความเย็นและอุปกรณ์ทำความเย็นแล้ว อีกบทบาทสำคัญที่จะสามารถบรรลุแนวทางที่ยั่งยืน ก็คือบทบาทผู้มีส่วนร่วม อย่างผู้ใช้งาน ผู้ซ่อมแซม วิศวกร และองค์กรต่างๆ
โดยเน้นไปที่การป้องกันการรั่วไหลของสารทำความเย็นและการกู้คืนสารทำความเย็น เช่นสนับสนุนเผยแพร่ความรู้การกู้คืนสารทำความเย็น และพัฒนาระบบกู้คืนสารทำความเย็นด้วยเทคโนโลยี การปรับปรุงขั้นตอนการติดตั้งเพื่อป้องกันการรั่วของสารทำความเย็น
ให้การความรู้และฝึกอบรมด้านเทคนิคเพื่อสนับสนุนการจัดการสารทำความเย็นที่เหมาะสม กำหนดแผนฟื้นฟู รีไซเคิล และทำลายสารทำความเย็น เป็นต้น
หลายหลากบทบาทที่กล่าวมาล้วนสำคัญต่อทางออกที่ยั่งยืนของโลก และสิ่งแวดล้อม วงจรชีวิตของอุปกรณ์ทำความเย็นและปรับอากาศนั้นค่อนข้างมีระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทุกฝ่าย เพื่อตอบสนองความยั่งยืน และความต้องการของอนาคต
หาความสมดุลในการเลือกใช้สารทำความเย็นที่ดี อย่างราคา ต้นทุนที่ ความปลอดภัย ประสิทธิภาพและความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมกับเรา
Colder Solution พร้อมจะนำเสนอ Solution ที่ดีที่สุด และสมดุลที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ทำความเย็น สารทำความเย็น ที่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานของคุณ
ผู้นำด้านการนำเข้าสารทำความเย็นคุณภาพทุกยี่ห้อ Orafon,Honeywell,Klea,DuPont,Daikin ฯลฯ คอมเพรสเซอร์ รวมถึงอะไหล่ Danfoss และอื่นๆ อาทิเช่นน้ำมันหล่อลื่นเกรดคุณภาพ
หากต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับระบบทำความเย็น รวมถึงเลือกสารทำความเย็นให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ เพื่อคุณภาพสูงสุด ปรึกษาเราได้ที่
Line Official Account : @Colder
✉ Email : kantawan.coldersolution@gmail.com
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณา
คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม ‘นโยบายคุกกี้’
Website Policy | Privacy Policy | Copyright 2021